ไทย นิวส์ไวร์ - Thai Newswire

ปักกิ่ง, 1 เมษายน 2568 /PRNewswire/ -- รายงานข่าวจาก CRIOnline:

ในเขตชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย อ่างเก็บน้ำ Cirata เป็นที่ตั้งของโครงการริเริ่มด้านพลังงานหมุนเวียนที่ล้ำสมัยอย่างโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ Cirata ซึ่งพัฒนาโดย PowerChina โครงการนี้ถือเป็นโครงการ FPV แห่งแรกของอินโดนีเซียและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีกำลังการผลิต 192 เมกะวัตต์ ทำให้เป็นโครงการที่มีความลึกมากที่สุดในประเภทเดียวกันที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทั่วโลก โครงการนี้ได้รับสถานะดำเนินการเต็มรูปแบบเมื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าในเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง PLN บริษัทไฟฟ้าภาครัฐของอินโดนีเซีย และ Masdar ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของประเทศ

โครงการนี้เผชิญกับความท้าทายทางวิศวกรรมที่สำคัญ ด้วยภูมิประเทศใต้น้ำที่ซับซ้อน ทีมงานของ PowerChina จึงได้ทำการสำรวจทางธรณีวิทยาอย่างละเอียด และใช้ระบบยึดแบบใหม่ โดยรวมสลักรับแรงเฉือนและน้ำหนักถ่วงคอนกรีตเข้าด้วยกันเพื่อยึดแผงลอยน้ำ นอกจากนี้ ทีมงานได้ดำเนินการทดสอบอุโมงค์ลมอย่างเข้มงวดและสร้างแบบจำลองด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อปรับการจัดเรียงแผงและการออกแบบโครงสร้างให้เหมาะสมที่สุดเพื่อความเสถียรของระบบในการรับมือกับความเร็วลมสูงเหนือน้ำ

ในระหว่างพิธีเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า ประธานาธิบดี Joko Widodo ของอินโดนีเซียได้กล่าวยกย่องโครงการนี้ว่าเป็นความสำเร็จที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ของประเทศ พร้อมยืนยันถึงความมุ่งมั่นของอินโดนีเซียในการขยายขีดความสามารถด้านพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ในระดับใหญ่เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ โรงไฟฟ้า Cirata มีส่วนสนับสนุนโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติอย่างมาก โดยจัดหาพลังงานหมุนเวียนร้อยละ 25 ของอินโดนีเซียและผลิตไฟฟ้าได้ 300,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในบ้านเรือนกว่า 50,000 หลัง นอกจากนี้ โครงการคิดริเริ่มนี้ยังช่วยลดการพึ่งพาถ่านหิน ลดการใช้ถ่านหินลง 117,000 ตัน และลดการปล่อยคาร์บอนในแต่ละปี

ความสำเร็จของโครงการ Cirata เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับโลกในการผลักดันโครงการพลังงานที่ยั่งยืน สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศที่เปิดกว้าง ครอบคลุม เป็นประโยชน์ร่วมกัน และเท่าเทียมกัน PowerChina ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนระดับโลก